วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เริ่มต้นใหม่ด้วยการไดเอท คลีนฟู้ด

บอกเลยตั้งแต่ปีใหม่ว่าจะออกกำลังกายแล้ว
แต่ด้วยเหตุผลของความขี้เกียจ+ติดธุระที่ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายเป็นเวลาได้ จนพาลขี้เกียจไปเลย
ก็มีทั้งกินเหล้า ดื่มเบียร์ ดูดบุหรี่ กินเที่ยว สารพัดครบครัน
จนน้ำหนักพุ่งไปที่ 88-90 ตัวบวมมาก

จนวันนึงหลังสงกรานต์ก็เริ่มจัดการตัวเอง
ด้วยการไดเอท + กินคลีนฟู้ด แต่ไม่เคร่ดเครียดมาก
คือ
เริ่ม วันที่ 16 เมษายน 2560
เช้า  - อกไก่
กลางวัน - ไข้ต้ม 2 ฟอง
เย็น - อกไก่อีก
บางทีก็...
เช้า - อกไก่ ไข่ต้ม
กลางวัน - มันต้ม
เย็น - อะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่คลีนอยู่
หลังๆๆ.....
เช้า - ไก่ย่าง ข้าวเหนียว
กลางวัน - โอรีโอ 3 ชิ้น
เย็น - ยำอะไรไม่รู้ แล้วแต่อารมณ์
บอกแล้วไม่เครียด

ผลคือ 
เริ่มจากต้นเมษายน อยู่ที่ 88-90 ก็พยายามวิ่ง แต่เหมือนยิ่งวิ่งยิ่งกิน ตายๆๆ
ช่วงสงกรานต์น้ำหนักอยู่ที่ 84-85 (ใช้วิธีไดเอท ไม่ออกกำลังกายดีกว่า)
ผ่านไป 1 เดือน คือ กลางเดือนพฤษภา อยู่ที่ 80
กลางเดือนมิถุนา อยู่ที่ 77-78 
ไม่ลดแล้ว เพราะไม่มีวินัยในการกินเลย




















มีรูปประกอบ จากการไดเอท พบว่า มวลร่างกาย คือ หน้าอก กับหน้าท้องลดลงเท่านั้น
ที่เหลือคงเดิม เริ่มใส่เสื้อผ้าได้มากขึ้น

แต่ผมต้องการใส่เสื้อ Slim Fit หรือพวก Size M, L ให้ได้
นับแต่วันจันทร์ที่ผ่านมานี้ จะเริ่มจริงจัง (จะได้กี่วันไม่รู้ ก็จะลองดู อีกสักครั้ง)

บอกก่อนว่า
อายุ 36 ปี สูง 180 ไม่ออกกำลังกายช่วงนี้ แก่ตัวจะลำบาก 

วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560

ขอลาออกจากความเป็นตัวเอง (ต่อ) หักดิบ

ความเป็นตัวเอง ตัวตนเนี่ย มีอะไรเยอะแยะที่มันไม่ดีและไม่ควร
จริงๆ แล้วผมเลิก บุหรี่ มาเกือบ10ปี
วันที่เลิกบุหรี บอกกับตัวเองว่า
จะหยุดกินเหล้ากินเบียร์ด้วย
ก็ตามนั้น หลังจากเลิกบุหรีมาเกือบ 10 ปี
ภายใน 10 ปี ดูดบุหรี่บ้างนะเวลาเครียดโคตรๆๆจริง ก็นับได้ว่าไม่เกิน 5 ซอง
ส่วนเหล้าเบียร์ ก็ดื่มเป็นพักๆๆ พักไหนดื่มก็ติดๆๆกันจนยับจนพัง
พักไหนไม่ดื่มก็ไม่ดื่มเลย
อีกอย่าง คือ ผมเป็นคนที่อารมณ์ดีแล้วจะชอบไปนั่งกินเหล้าจิบเบียร์คนเดียว เพราะฉะนั้นตัดคำว่า "ดื่มเพื่อสังคม" ออกได้เลย ถ้ากรูจะไม่ดื่ม สังคมไหนกรูไปกรูก็หาเรื่องไม่ดื่มได้ ถ้าคิดดื่ม คนเดียวก็ยับได้

ตอนนี้เนี่ยร่างกายเริ่มแย่ ไม่รู้ว่าจากอะไรบ้าง
มาดูกันว่า เสพติดอะไรบ้าง
1. บุหรี่ -- เลิกแล้ว เลิกแน่นอน จะไม่กลับไปดูดอีกแล้ว ซึ่ง 3 ปีล่าสุดก็ทำได้ดี
2. เหล้า -- ยอมรับว่ากิน แต่กินยากเพราะต้องมีมิกซ์ ซึ่ง ภายใน 5 ปี ล่าสุด บอกเลยไม่น่าเกิน 10 ครั้ง
แต่ว่าแต่ละครั้งนี่เมายับ ลากกันกลับ แบ่งออกเป็นหลายเหล้า
     2.1 เหล้าไทย --- แสงโสม, มังกรทอง, หงษ์ทอง. รีเจนซี่, 285 ได้ด้วย อย่างต่ำคือ 2 แบน ถ้าถึง 3 แบนหมด ก็เมายับ แต่ยังเดินกลับบ้านได้ ขับรถได้บางที(ใกล้ๆ)
เหล้าเนี่ย จะกินผสมโซดา น้ำ บางทีหรือบางยี่ห้อจะผสมกับน้ำ โซดาไม่ต้อง
     2.2 สาเก --- แนวญี่ปุ่น นั่งกินซาซิมิ จิบสาเก ที่เค้าบอกว่า ดื่มแล้วปลาอร่อยขึ้น กรูนี่แระ ดื่มแล้วปลาไม่อร่อย เพราะเมา ได้หลายขวดเลย
     2.3 เซจู --- แนวเกาหลี อันนี้ไว้กินเป็นเป๊กๆๆ เวลานั่งทำงานที่บ้านก็จะจิบวันละ 2-3 เป๊ก
     2.4 จิน --- อันนี้นับว่าเป็นเหล้าขาวต่างประเทศ ก็ดื่มยี่ห้อ Bombay มีหลายขวดเลย หอม แรง จะเมาหลับ ก็เอาไว้ดื่มตอนทำงานเหมือนกัน วันนึงได้ประมาณ เป๊กเดียว บางทีก็เอาไปกินต่างจังหวัดกับน้ำผลไม้
3. เบียร์ -- อันนี้ดื่มได้หมด ตั้งแต่เบียร์ช้าง ลีโอ ไฮเนเก้น โฮการ์เด้น แต่ไม่ดื่มสิงห์ ก็ปกติถ้าช่วงไหนกินบ่อยๆๆ ก็จะติดๆๆกันแทบทุกวันเลย อย่างต่ำ 5 อย่างมากไม่เกิน 10 แค่พอเมาๆๆ เดินกลับบ้านได้
เว้นแต่ไม่ต่างจังหวัดแล้วนอนพัก มีเพื่อนกินด้วย อย่างต่ำต่อคนก็ 12-15 ขวด เมายับเช่นกัน
4. น้ำอัดลม --- อันนี้เนี่ย ตั้งแต่เลิกดูดบุหรี่ เลิกกินเหล้าเบียร์ ก็มาติดน้ำอัดลมแทน แต่ดื่มเฉพาะแบบไอเอทนะ เพราะกลัวเรื่องเบาหวาน ก็ที่ชอบถึงก็ Coke Light รองมาก็ Pepzi Max บางทีถ้าไม่มีจริงๆ ก็ Coke Zero น้ำอัดลมนี่ก็วันนึง 2-3 กระป๋อง เสพติดยิ่งกว่าเหล้าเบียร์อีก
5. โซดา --- อันนี้จะกินเวลาหาซื้อพวกไดเอทไม่ได้ ซึ่งต่างจังหวัดพวกไดเอทมันหายากก็โซดาแทน เสพติดความซ่าได้เหมือนกัน ยิ่งตอนนี้มีโซดาแบบ Mountain Rock ด้วย คือ แมร่งโครตซ่า บาดคอเลย ชอบมาก
6. กาแฟ --- แต่ก่อนกินกาแฟแบบ3in1 แต่ไม่ติด ไม่ชอบ ตอนหลังมากินกาแฟสด กาแฟสดเราคือ เอาเมล็ดกาแฟมาบดเลย แล้วชงใส่ซองดริฟ กาแฟดำล้วนๆๆ เออ ดีว่ะ ดื่มแล้วหลับสบาย วันนึง 2-3-4 แก้วเลย ใจไม่สั่นเหมือนกาแฟแบบอื่นด้วย

ก็ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ของด (แบบหักดิบ) ทุกสิ่งอย่างที่กล่าวไป ยกเว้น กาแฟ
เพราะต้องการคาเฟอีนเข้าร่างเพื่อการออกกำลังกายที่อึดขึ้น (คิดเอาเอง)

เพราะอะไรนะหรอ เพราะความสบายใจ
บางคนบอกว่า ติดเหล้าติดเบียร์ก็ดีกว่าติดน้ำอัดลม 
แต่ผมกินน้ำอัดลมแบบไดเอท เพราะงั้นน่าจะดีกว่าเหล้า
บางคนก็บอกอีกว่าพวกอัดลม น้ำอัดลม โซดา แม่งมีก๊าซทำให้กระดูกพรุน ฟันผุ บ้าง ไม่รู้นะ
ความเห็นส่วนตัว คือ เวลาป่วยไปหาหมอ เรื่องโรคเกี่ยวกับกระเพาะลำไส้เนี่ย หมอจะให้งดเหล้าเบียร์ น้ำอัดลม โซดา บุหรี่ กาแฟ เพราะมันจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะ

เพราะฉะนั้น ก็งดทั้งหมด ยกเว้น กาแฟ
จบ


ปล.เวลาหักดิบอะไร แล้วลงแดงเนี่ย กรูคงแดกกระจาย แมร่งจะอ้วนกว่าเดิมอ่ะเด่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

ขอลาออกจากความเป็นตัวเอง

คือ .....จะบ่น

คืนวันที่ 24 มกราคม 2560
เอาจริงๆนะ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว นั่งเฝ้าคิดคำนึงเรื่องเหล้าว่าจะกินเหล้ายี่ห้ออะไรดี ร้านเค้าจะขายยี่ห้ออะไร ในหัวสมองไม่เป็นอันทำงานเลย
เนื่องจากคืนวันที่ 23 ไปหาเพื่อนแถวสนามบิน คือ เพื่อนนั่งดื่มคนเดียว (อารมณ์เดียวกับเรา)
มันกินรีเจนซี่ไป 2 แบนครึ่ง ส่วนเราน้ำเปล่าล้วนๆๆ เพราะร้านไกลบ้าน ด่านเยอะ












คืนวันที่ 24 ก็ตั้งแต่ 5 โมงเลยครับ
แสงโสม 1 แบน กับโซดา 2 น้ำเปล่า 2 กินตอน 5 โมงเย็น หมดแบนตอน 17.30 น. คือ ไวไปมั้ย
มาแสงโสม แบนที่ 2 กับโซดา 2 น้ำเปล่า 2 กินหมดตอน18.30น.มั้ง ดูจากเวลาถ่ายรูป
มาแบน 3 รีเจนซี่ กับโซดากี่ขวดไม่รู้ น้ำเปล่าไม่ได้นับ กับแกล้มไม่กิน
กินเกือบหมดน่าจะราวๆๆ 2 ทุ่ม เพราะดูจากเบอร์โทร โทรไปหาคนขับรถให้มารับไปส่งบ้าน
จิงๆบ้านก็อยู่ตรงข้ามกับร้านแระ เดินประมาณ 800 เมตรเอง
คนขับรถบอกว่าไม่มีกุญแจ ซวยกรูแระ คิดตังมา พันเดียวมั้ง











ระหว่างที่จ่ายตัง อยู่ดีๆๆก็มี message ข้อความเตือนว่า เรามีประชุมเช้าที่วัดแห่งหนึ่งเรื่องหนังสือธรรม
ตอน 8 โมงเช้า นึกในใจชิบหายล่ะ จะไม่ไปก็ไม่ได้
ตอนแรกกะทำเล่นๆๆ ทำไปทำมา เสือกเก่งอีก เค้าให้เป็นแกนนำ ตายละหว่า เมาขนาดนี้
ก็เดินเซๆๆ กลับบ้าน เปิดประตูบ้านได้ ด้วยความเมา ก็นอนมันแถวๆประตูนั่นแระ
โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ชาร์ตเครื่องนึง อีกเครื่องไม่ได้ชาร์ต ...เออกรูเก่งเนอะ ชาร์ตได้
สรุปหลับยาวๆๆๆ ตื่นมาอีกที ตี4 เพราะตั้งปลุกล่วงหน้าเป็นเดือนเลย
คือ นอกจากตั้งให้ message เตือนแล้วก็ตั้งให้มันปลุกด้วย แบบรัวๆๆ ปังๆๆ เพราะเรื่องนี้สำคัญ
ผิดนัดไม่ได้

ก็อาบน้ำ แปรงฟัน หายเมาแระ
แต่ประเด็นคือ กลิ่นเหล้า แมร่งหึ่งตลบปากเลย ทั้งลมหายใจ
ตี 5 ขับรถแบบมีกลิ่นเหล้าไปวัดแต่เช้า เพราะกลัวรถติด
ตอนประชุมเสร็จ พระเจ้าคณะอำเภอที่นั่งใกล้ๆๆ ถามเราว่า
...โยมเมื่อคืน ดื่มเหล้ามาหรอ ไม่ดีเลยนะ ทำงานแบบนี้ ดื่มเหล้ามันจะไม่มีสติ
คือ กลิ่นมันฟุ้งมาก น่าขายหน้าที่สุดเลย
กรูก็ดันเถียงด้วยนะ ที่ผ่านมาเนี่ย ถ้าไม่ได้เหล้า หรือไม่ได้ดื่มระหว่างทำงาน
งานท่านไม่เสร็จแน่นอน ทำทุกวันนี้ เพราะดื่มเหล้าเบียร์ทุกครั้งในระหว่างทำงานเลยนะ
..กรูก็เลยโดนพระเทศน์ตอนเพล ไปชั่วโมงนึง
เทศน์ไปก็เท่านั้น ถ้ากรูเลิกได้เลิกไปนานแล้ว ก็ฟังๆๆ ครับๆๆ ไปแบบนั้นแระ

ระหว่างนั้น ก็มี message เตือนอีก ว่าตอน บ่ายโมง
ต้องมีไปสอน อบรม ธัมมะอาสา ที่จะมาช่วย
เอาละหว่า ความชิบหายเยือน รีบขับรถกลับบ้าน
มานั่งดูบันทึกข้อความ ....โอเค ใช้อารมณ์ล้วนๆๆ
นั่งจับเมาส์ มือสั่น เหงื่อแตก กรูจะอธิบายได้มั้ยล่ะ จริงๆ เริ่มปวดหัวนิดๆๆ
เรื่องตอนเช้ามันเครียด

พอดีกลับธัมมะอาสา ขออนุญาตมาสาย เราก็ยินดี เพราะเราไม่พร้อมอย่างแรง
ก็ใจร่มๆ ค่อยๆ อธิบายไป ให้ตัวอย่าง พร้อมวิธีแก้ไข

โอเคผ่าน

แต่ตอนเช้าเนี่ย ตอนที่ขับรถไปวัด ตอนที่อยู่ที่วัดรอประชุม
เราได้นั่งทบทวนว่า ...เราควรจะลาออกจากความเป็นตัวเองได้แล้ว
เช่น
1. เรื่องขี้เมา --- ลด ละ เลิก (เราจริง หักดิบไปเลย) จิงๆก็ทุกวันแระ ไม่เหล้าก็เบียร์ ขนาดไหน
                          ถ้าเบียร์ก็ 5-10 ขวด ต่อวัน เหล้า 2-3 แบน
2. เรื่องขับรถเร็ว -- จริงๆ ในความรู้สึกเราอ่ะ ก็ขับธรรมดา แต่ทุกคนลงความเห็นว่าเร็ว
                              เร็วแค่ไหนถ้ากลางคืน ออกจากบ้านเที่ยงคืน 6โมงถึงเชียงใหม่
                                                                                                     6โมงถึงหนองคาย
                                                                                                      6กว่าๆถึงธาตุพนม
                             ไม่ต้องคิดว่าเหยียบขนาดไหน
                             ถ้ากลางวันออกจากอุดรเช้า เที่ยงก็ถึงบ้าน พร้อมจดหมายรักจากตำรวจ
                             ปีๆนึงเกิน 20 ใบ
                             คือ เร็วตอนโล่งนะ ไม่ชอบปาด แต่ชอบมุด
                             เคยรถหมุนก็หลายที หลุดโค้งก็หลายที แต่ก็เฉยๆๆ เพราะขับเร็ว
                             **แต่จะขับเร็วเฉพาะขับคนเดียว มีคนนั่งด้วยก็ไม่เกิน 120
3. เรื่องอีโก้ -- คือการศึกษาอ่ะนะ มันสูง หลายมหาลัย บางที่ก็มีโล่ติดมือมาด้วย ทำให้ชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ไม่ได้คิดว่าเหนือคนอื่น แต่คิดว่าเก่ง ทุกๆเรื่องที่เข้ามา เบสิก กรุทำได้ทุกอย่าง
4. เรื่องไดเอท --- ก็คิดเอาเอง เออเองว่า พยายามลดแป้ง ลดไขมัน ลดทุกอย่าง แต่ความจริงน้ำหนักแมร่งไม่ลดเลย แล้วดันทะลึ่งแดกเหล้าเบียร์อีก
5. เรื่องคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ --- คือไม่ใช่อะไรหรอก เป็นไพโบล่า บ้าพลังอ่ะ ถ้าช่วงบ้าก็บ้าจิง ถ้าไม่บ้า ก็นอนได้ทั้งวัน จริงๆๆก็พยายามกินยาช่วยนะ แต่ไม่รู้สิ ยังไม่หาย
6. ไม่รู้ว่า วันนั้นคิดได้เป็น 10 เรื่อง วันนี้จำไม่ได้
แต่ก็หลักๆๆ เท่านี้

จึงเรียนมาเพื่อความลาออกจากความเป็นตัวเอง
ปลดล็อคตัวตน สร้างลุคใหม่ สร้างชีวิตใหม่
ชีวิตเป็นของเรา ไม่ต้องหมอดู ดูดวงให้
ทำวันนี้ให้ดี แล้วทุกๆๆวันจะดีเอง
ก็เริ่มวันที่ 25 (คือ เมื่อวาน)
จบ



ภาพบรรยากาศร้านนั่งกิน เห็นทีไร อยากทุกที อาหารก็อร่อย





วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

ไม่เผลอ ...แต่ยอมรับ

คือ ตั้งแต่วันที่ 12-13-14-16-18
5วัน ไม่เผลอใจเลย ตั้งใจไปนั่งดื่มเบียร์+กินกับแกล้ม ไปคนเดียวด้วย
อย่างต่ำ ก็ 5 ขวด ถึง 7-9 ขวด ต่อวัน
คือ อร่อยอ่ะ ฟินมาก มีความสุขในการดื่ม
ไม่ได้สนใจผลที่ตามมาเลย
อุตส่ากำลังใจออกกำลังกายมากมาย ท้ายสุดก็ยังกลับไปกิน
ร้านแมร่งอยู่ตรงข้ามซอยบ้าน แดกไปสิ ดื่มไปสิ
ตัวบวมกว่าเดิมอีก คือ รู้สึกว่าออกกำลังกายไป 3 วันเนี่ย แข็งแรงขึ้นนะ
แต่ก็บวมขึ้นด้วย





ร้านหน้านั่งมาก













ลีโอเบาๆๆ









กับแกล้มเท่าไรมาหมด












น้ำเปล่าก็ทานเยอะๆๆ อย่างต่ำ 3 ขวด + เบียร์++













ไม่ถึง 5 ไม่มีวันเลิกลา












บางวันก็เปลี่ยนร้าน แต่ดื่มเหมือนเดิม









บรรยากาศแบบนี้ อดใจไม่ไหวหรอก


แล้ววันนี้วันเสาร์ คิดอยู่เนี่ย จะไปดื่มอีกดีมั้ย
ดื่มเสร็จกลับบ้านนอนหลับสบาย
วันนี้วันส่งเทพขึ้นสวรรค์ไปรายงานเง็กเซียนด้วย
ระหว่างเทพไม่อยู่ เราก็หนีเที่ยวตามระเบียบดีกว่า
เมื่อเช้า เผากระดาษม้า และเงินใต้โต๊ะไปแระ

ดื่มสั่งลาอีกสักวัน (จริงหรอ) แล้วต่อไปจะลด ละ เลิก ให้ได้ด้วย
เนี่ยกลางวันเนี่ย นั่งทำงานอยู่ แต่ใจเนี่ย อยู่แต่ร้านเบียร์เลย
ทำงานไม่มีใจเลย

แล้วสัปดาห์หน้าเรื่องต้นกันใหม่ ...บาย

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

คติเตือนใจ

"ผมออกกำลังกายแบบสติอยู่กับปัจจุบัน อนาคตหรือพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง"
"จะปวด จะเจ็บ จะพัง ช่างมัน เอาปัจจุบันนี้ นาทีนี้ ให้เต็มที่และปลอดภัย ...แล้วอนาคตจะดีเอง"


"ความบ้าพลังจงบังเกิด แก่ร่างกายของข้าพเจ้า ขอให้อย่าเจ็บอย่าป่วย ขอให้ถูกหวย"
"มองขันท์ 5 ให้ออก แยก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ออกมา ให้ใจกำหนดเห็น รู้แจ้ง ...ขอให้มีร่างกายที่บริบูรณ์ เพื่อพร้อมเดินทางเข้าสู่นิพพาน" - มาแนวศาสนาล่ะ
"การออกกำลังกาย ก็เหมือนการเดินจงกลม ออกกำลังไปเรื่อยๆ ให้เหมือนตอนเดินจงกลมไปเรื่อยๆ อย่าไปสนใจเรื่องเวลา หรืออดีต หรืออนาคต ทุกอย่างเป็นไตรลักษณ์ มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา มองให้เป็นเพียงความว่างเปล่า สติอยู่กับร่างกาย อยู่กับปัจจุบัน ...แล้วความเหนื่อย มันมีอยู่ก็จริง แต่มันทำอะไรในใจเราไม่ได้ กายเหนื่อย และใจไม่เหนื่อย เมื่อใจไม่เหนื่อย ใจก็มีพลัง ได้ทั้งพลังกาย พลังใจ พลังจิต ไปพร้อมๆกัน ..เมื่อใจพร้อม กายก็สบาย ออกกำลังกายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แม้มันจะหนัก แต่มันก็สบายใจ"
"อนาคตหรอ เป้าหมายหรอ ไม่มีหรอก กระทำมันวันต่อวัน นาทีต่อนาที อย่าไปคาดหวังอะไรเยอะ ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติในตัวมันเอง"

ตอนผมบวชเนี่ย เดินจงกลมวันละประมาณ 8 ชม. + บิณฑบาตรเช้า รวมระยะทาง 25-30 กิโล 
วัดจาก มือถือ มีประโยชน์จริง ใช้จนสึกออกมาต้องซื้ออะไรใหม่ที่ไม่ใช่มือถือ เพราะเกะกะเอามากๆ

ปล.วันนี้มาทำงาน ดูภายนอกเหมือนไม่มีไร แต่ร่างกายนี่อย่างปวดเลย ก็พยายามอย่าฝืนตัวเอง ปล่อยให้มันเป็นธรรมชาติ ทำอะไรเท่าที่ทำได้ อย่าหักโหม จะได้ไม่เจ็บไม่จน รวยๆเฮงๆๆ

1-2 วันแรกของการออกกำลังกาย

คือ บล็อคนี้เป็นไดอารี่ + แบ่งปันความรู้
ประเด็นคือ ตั้งใจจะตื่นมาตอนเช้ามาออกกำลังกาย
แล้วตอนเย็นก็ออกเพิ่มอีก
แต่ 2 วันมาเนี่ย ตื่นสาย
ตารางที่ใช้มีแค่ 3 แบบ คือ P90X++ , 21DaysFix , PiYO
พอดีที่ PiYO เริ่มวันพฤหัส เพื่อที่จะได้พักวันอาทิตย์
เพราะวันอาทิตย์ผมคือ วันทำความสะอาดบ้าน+นอนดูทีวี

2 วันมานี่ มีไรบ้างหราาา
วันที่ 1 (9/1/60)
1.1 Chest & Back + Abs Ripper ก็เล่นเต็มที่อ่ะคับ สู้สุดใจ ออกกำลังกายแบบพุ่งนี้จะเป็นยังไงหรือจะปวดยังไงก็ช่าง สติอยู่กับปัจจุบัน ทำให้เต็มที่ ตะคริวกินไป 4 รอบ
1.2 จากนั้นพัก 10 นาที แล้วออก Total Body Cardio Fix ต่อเลย
นางแบบหุ่นนี่ เซ็กซี่ แค่น้ำเสียงใจแทบละลาย เหนื่อยชิบ เหนื่อยมากๆๆ
แต่ก็เบากว่าอันแรก แต่โดน P90X มาแล้ว แรงก็แทบไม่เหลือ อาศัยน้ำเย็นๆ ดับกระหายเอา

วันที่ 2 (10/1/60)
2.1 Interval X มันเป็นการออกกำลังกายแบบ HIIT ไล่ระดับความแรง 1-2-3
บอกเลยว่า เมื่อวันแรกเหนื่อยแล้ว วันนี้เนี่ย เหงื่อเต็มพื้น คล้ายๆกับ Plyometric แต่เบากว่า ใช้กำลังขาน้อยกว่า จึงได้เลือกมาในหลักสูตรนี้
2.2 พัก 10 นาที ตามด้วย Upper Fix
อันนี้เนี่ย จะเน้นส่วนร่างกายส่วนบน โหดนะ เพราะเมื่อวานก็ Chest & Back มาแล้ว
วันนี้มาซ้ำเข้าไปอีก อันนี้ต้องมีดัมเบลล์แบบหนัก กับแบบเบา
เราเลือกแบบหนัก 3 โล แบบเบาเราไม่มี ก็ใช้แบบหนักแล้วฝืนเอา

สรุป 2 วัน ควรจะแบ่งเช้าเย็น แต่ดันตื่นสาย
เป็นเหตุให้ต้องออกกำลังกายติดต่อกัน เหนื่อยคับ ปวดเมื่อยมาก เหงื่อไหลเยอะคับ
แอบชั่วน้ำหนัก ลดลงมา 2 โล
เพราะเราทานแค่มื้อเช้า กับกลางวัน (สวัสดิการที่ทำงาน)

ปล.ส่วนวันนี้ วันที่ 3 (11/160) ก็ตื่นสายอีก
กลางคืนคงต้องเบิ้ลอีก

"ผมออกกำลังกายแบบสติอยู่กับปัจจุบัน อนาคตหรือพรุ่งนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง"
"จะปวด จะเจ็บ จะพัง ช่างมัน เอาปัจจุบันนี้ นาทีนี้ ให้เต็มที่และปลอดภัย ...แล้วอนาคตจะดีเอง"
"ความบ้าพลังจนบังเกิด แก่ร่างกายของข้าพเจ้า ขอให้อย่าเจ็บอย่าป่วย ขอให้ถูกหวย"

รวมตารางฝึกแบบต่างๆ ของ BeachBody

ตาราง P90X + P90XPlus + P90X2 + P90X3
อันนี้ ผมเอาทั้ง 4 แบบมา Mix รวมกันโดยอาศัยประสบการณ์ในการออกกำลังกาย
ที่ใช้แบบของโทนี่ล้วนๆ ซึ่งใช้ P90X เป็นโครงสร้าง แล้วปรับเปลี่ยนตารางให้สอดคล้องกัน
(ย้ำว่าจัดตารางเอง บางวันเล่นจนตะคริวขึ้นก็มี -- โหดดีจัง)


ตารางต่อไป คือ 21 Days Fix + Extreme


ตารางต่อไป PiYO ถ้าจัดตามตารางของเค้า จะพักวันศุกร์
ผมเอามาเรียงใหม่ พักวันอาทิตย์



ต่อไปที่อยากเล่น แต่ไม่มีกำลังขาในการเล่น คือ
LesMillCombat


ตามด้วย TurboFire (ตามเค้าจะพักวันพุธ กระผมก็เรียงใหม่ให้พักวันอาทิตย์) เช่นกัน
แนะนำให้ใช้ลำโพงเปิดดังๆๆ เอาแบบข้างบ้านด่ากัน ไม่งั้นไม่สนุก



ตามด้วย TurboJam อันนี้แนะนำ สำหรับมือใหม่ เพราะง่ายกว่า TurboFire เยอะเลย


มาของ T Shuan เป็นอะไรที่ฮิตตามกระแสมากๆๆ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันหน้ามืด
Focus T25


ต่อด้วยจังหวะ HipHop ของ T-Shuan เช่นกัน อันนี้แนะนำว่าลำโพงเบสแน่นๆๆ จะเวิร์คมาก


สุดท้าย ท้ายสุด เค้าโฆษณาว่า สามารถสร้างกล้ามท้องแบบ 8 แพ็คได้
เคยลองแล้ว น่าเบื่อนะ ท่าซ้ำๆๆ เลยเลิกเล่นไป
RevABS



***ใครอยากได้ตารางฝึกของค่าย BeachBody ตัวอื่นๆ ก็ Indox มาได้ มีอยู่แทบทุกแบบ
คือกระผมอยู่กับค่ายนี้มานาน หลักๆ จะมีครบ

ปล. ตารางอาจจะไม่สวยนัก เพราะใช้โปรแกรม Excel ทำ ไม่ได้ใช้ illus or Photoshop แต่อย่างใด

มาเริ่มออกกำลังกายกัน

Xโปรไฟล์เบื้องต้น
เพศชาย
ส่วนสูง 180 ซม.
หนัก ณ วันที่ 5 มกราคม 60 อยู่ที่ 85 กก.
อายุ 35 ปี
มีโรคประจำตัว คือ ความดันสูง แต่ไม่มาก
มีความเสื่ยงเป็นเบาหวานด้วย

มาเริ่มกันวันนี้ ที่ 9 มกราคม 2560
วันที่ 9 น่าจะเป็นวันดีนะ จะพยายามออกกำลังกายตามตารางฝึกไปเรื่อยๆ
โดยไม่สนใจว่า อนาคตผลจะออกมาเป็นเช่นไร
ทำและปฏิบัติให้อยู่กับปัจจุบันมากที่สุด
(อันนี้ คิดแบบการเจริญสติกัมมัฐฐาน อาศัยกายานุสติด้วย)

คือ จะพยายามออกกำลังกาย ตอนเช้า กับช่วงเย็น
ช่วงเช้า จะออกกำลังกายด้วยหลักสูตร  PiYO ของ Chalene Johnso
เบาๆๆ สบายๆๆ แต่เหงื่อออก ถ้าทำได้ดีแล้ว จะเพิ่ม Cardio อีก 30 นาทีลงไปด้วย

ช่วงเย็น จะ MIX ของพี่โทนี่ ประกอบด้วย P90X + P90XPlus + P90X2 + P90X3
โดยหลักๆจะอยู่ที่ P90X1 เป็นแกน
แล้วเอา Interval X กับ Kenpo+ ของ P90XPlus มาเพิ่ม
ส่วน P90X2 จะเอาแค่ Yoga X2 มาแทน (เพราะ Yoga X1 มันโหดเกิ๊น)
ส่วน P90X3มาหลายตัว โดยเฉพาะเรื่องของการเบิร์นแคลลอรี่ เช่น
CVX MMX Dynamic Isometrix Pilates Yoga Synergistic Accelerator Warrior Challenge
เอามาเยอะเหมือนกัน

คือประเด็นเล่น P90X จนเบื่อแล้ว เลยจะเปลี่ยน แต่ของเก่ามันเล่นยาวกว่าเป็นบางอันและโหดน้อยกว่า

หลังจากนั้นจะพักประมาณ 10 นาที
แล้วเล่น 21 Days Fix ของ Autumn Calabrese
สาวสวย หุ่นเซ็กซี่ วันละประมาณ 30 นาที 21 วัน
เสร็จแล้วจะพักร่างกาย 1 สัปดาห์ (ก็จะพอดีกับ P90X) ที่เล่นหนัก
สัปดาห์ พักเบาๆ  เอาให้พังกันไปข้าง

ปล. รองเท้าไม่ได้เล่นนาน เล่นได้ 2 วัน พื้นหลุดไปแล้ว
อยากได้ใหม่ก็น่าจะบอกกันดีๆ

สภาพจริง ไม่ได้ออกกำลังมานาน

สืบเนื่องจากปี 57 จนมาถึงต้นปี 2560
คือ แทบไม่ได้ออกกำลังกายเลย
ทั้งโรคต่างๆรุมเร้า ออกเดินทางต่างจังหวัดบ่อย ไปสายบุญนู้นนี่โน่นนั่น รวมถึงอุปสมบท
พอต้นปีนี้ได้เข้างานใหม่ที่นึง
เป็นงานประมาณว่านั่งโต๊ะสัก 90% คือ แทบจะไม่ได้เดินเลยว่างั้น
มาเริ่มเลย
อุปกรณ์ที่เพิ่มจากเดิม เช่น
iPhone 7 Plus, Apple Watch, และก็น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
สภาพตอนนี้อยู่ที่ 85 กก.
ตามภาพเลยครับ
สภาพคือ เป็นคนที่สูง 180 ซม.
มือ แขน ขาเล็ก
แต่ใหญ่ที่พุง กับนม
ที่นมเนี่ย น่าจะลดๆเพิ่มๆบ่อย นมเลยไม่ค่อยลดตาม
ส่วนพุงเนี่ย เป็นส่วนที่ลดยากที่สุดแล้ว
รูปถ่ายเมื่อวันที่ 1 มกราคา 2560 ล่าสุดเลยครับ

....แล้วมาดูกันว่า 30 วัน (ถ้าสามารถออกกำลังกายได้ครบตามกำหนดการแล้ว) ผลจะเป็นเช่นไร
จะให้ถ่ายทุกสัปดาห์ บอกเลย "ขี้เกียจ"