คือ .....จะบ่น
คืนวันที่ 24 มกราคม 2560
เอาจริงๆนะ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว นั่งเฝ้าคิดคำนึงเรื่องเหล้าว่าจะกินเหล้ายี่ห้ออะไรดี ร้านเค้าจะขายยี่ห้ออะไร ในหัวสมองไม่เป็นอันทำงานเลย
เนื่องจากคืนวันที่ 23 ไปหาเพื่อนแถวสนามบิน คือ เพื่อนนั่งดื่มคนเดียว (อารมณ์เดียวกับเรา)
มันกินรีเจนซี่ไป 2 แบนครึ่ง ส่วนเราน้ำเปล่าล้วนๆๆ เพราะร้านไกลบ้าน ด่านเยอะ
คืนวันที่ 24 ก็ตั้งแต่ 5 โมงเลยครับ
แสงโสม 1 แบน กับโซดา 2 น้ำเปล่า 2 กินตอน 5 โมงเย็น หมดแบนตอน 17.30 น. คือ ไวไปมั้ย
มาแสงโสม แบนที่ 2 กับโซดา 2 น้ำเปล่า 2 กินหมดตอน18.30น.มั้ง ดูจากเวลาถ่ายรูป
มาแบน 3 รีเจนซี่ กับโซดากี่ขวดไม่รู้ น้ำเปล่าไม่ได้นับ กับแกล้มไม่กิน
กินเกือบหมดน่าจะราวๆๆ 2 ทุ่ม เพราะดูจากเบอร์โทร โทรไปหาคนขับรถให้มารับไปส่งบ้าน
จิงๆบ้านก็อยู่ตรงข้ามกับร้านแระ เดินประมาณ 800 เมตรเอง
คนขับรถบอกว่าไม่มีกุญแจ ซวยกรูแระ คิดตังมา พันเดียวมั้ง
ระหว่างที่จ่ายตัง อยู่ดีๆๆก็มี message ข้อความเตือนว่า เรามีประชุมเช้าที่วัดแห่งหนึ่งเรื่องหนังสือธรรม
ตอน 8 โมงเช้า นึกในใจชิบหายล่ะ จะไม่ไปก็ไม่ได้
ตอนแรกกะทำเล่นๆๆ ทำไปทำมา เสือกเก่งอีก เค้าให้เป็นแกนนำ ตายละหว่า เมาขนาดนี้
ก็เดินเซๆๆ กลับบ้าน เปิดประตูบ้านได้ ด้วยความเมา ก็นอนมันแถวๆประตูนั่นแระ
โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ชาร์ตเครื่องนึง อีกเครื่องไม่ได้ชาร์ต ...เออกรูเก่งเนอะ ชาร์ตได้
สรุปหลับยาวๆๆๆ ตื่นมาอีกที ตี4 เพราะตั้งปลุกล่วงหน้าเป็นเดือนเลย
คือ นอกจากตั้งให้ message เตือนแล้วก็ตั้งให้มันปลุกด้วย แบบรัวๆๆ ปังๆๆ เพราะเรื่องนี้สำคัญ
ผิดนัดไม่ได้
ก็อาบน้ำ แปรงฟัน หายเมาแระ
แต่ประเด็นคือ กลิ่นเหล้า แมร่งหึ่งตลบปากเลย ทั้งลมหายใจ
ตี 5 ขับรถแบบมีกลิ่นเหล้าไปวัดแต่เช้า เพราะกลัวรถติด
ตอนประชุมเสร็จ พระเจ้าคณะอำเภอที่นั่งใกล้ๆๆ ถามเราว่า
...โยมเมื่อคืน ดื่มเหล้ามาหรอ ไม่ดีเลยนะ ทำงานแบบนี้ ดื่มเหล้ามันจะไม่มีสติ
คือ กลิ่นมันฟุ้งมาก น่าขายหน้าที่สุดเลย
กรูก็ดันเถียงด้วยนะ ที่ผ่านมาเนี่ย ถ้าไม่ได้เหล้า หรือไม่ได้ดื่มระหว่างทำงาน
งานท่านไม่เสร็จแน่นอน ทำทุกวันนี้ เพราะดื่มเหล้าเบียร์ทุกครั้งในระหว่างทำงานเลยนะ
..กรูก็เลยโดนพระเทศน์ตอนเพล ไปชั่วโมงนึง
เทศน์ไปก็เท่านั้น ถ้ากรูเลิกได้เลิกไปนานแล้ว ก็ฟังๆๆ ครับๆๆ ไปแบบนั้นแระ
ระหว่างนั้น ก็มี message เตือนอีก ว่าตอน บ่ายโมง
ต้องมีไปสอน อบรม ธัมมะอาสา ที่จะมาช่วย
เอาละหว่า ความชิบหายเยือน รีบขับรถกลับบ้าน
มานั่งดูบันทึกข้อความ ....โอเค ใช้อารมณ์ล้วนๆๆ
นั่งจับเมาส์ มือสั่น เหงื่อแตก กรูจะอธิบายได้มั้ยล่ะ จริงๆ เริ่มปวดหัวนิดๆๆ
เรื่องตอนเช้ามันเครียด
พอดีกลับธัมมะอาสา ขออนุญาตมาสาย เราก็ยินดี เพราะเราไม่พร้อมอย่างแรง
ก็ใจร่มๆ ค่อยๆ อธิบายไป ให้ตัวอย่าง พร้อมวิธีแก้ไข
โอเคผ่าน
แต่ตอนเช้าเนี่ย ตอนที่ขับรถไปวัด ตอนที่อยู่ที่วัดรอประชุม
เราได้นั่งทบทวนว่า ...เราควรจะลาออกจากความเป็นตัวเองได้แล้ว
เช่น
1.
เรื่องขี้เมา --- ลด ละ เลิก (เราจริง หักดิบไปเลย) จิงๆก็ทุกวันแระ ไม่เหล้าก็เบียร์ ขนาดไหน
ถ้าเบียร์ก็ 5-10 ขวด ต่อวัน เหล้า 2-3 แบน
2.
เรื่องขับรถเร็ว -- จริงๆ ในความรู้สึกเราอ่ะ ก็ขับธรรมดา แต่ทุกคนลงความเห็นว่าเร็ว
เร็วแค่ไหนถ้ากลางคืน ออกจากบ้านเที่ยงคืน 6โมงถึงเชียงใหม่
6โมงถึงหนองคาย
6กว่าๆถึงธาตุพนม
ไม่ต้องคิดว่าเหยียบขนาดไหน
ถ้ากลางวันออกจากอุดรเช้า เที่ยงก็ถึงบ้าน พร้อมจดหมายรักจากตำรวจ
ปีๆนึงเกิน 20 ใบ
คือ เร็วตอนโล่งนะ ไม่ชอบปาด แต่ชอบมุด
เคยรถหมุนก็หลายที หลุดโค้งก็หลายที แต่ก็เฉยๆๆ เพราะขับเร็ว
**แต่จะขับเร็วเฉพาะขับคนเดียว มีคนนั่งด้วยก็ไม่เกิน 120
3.
เรื่องอีโก้ -- คือการศึกษาอ่ะนะ มันสูง หลายมหาลัย บางที่ก็มีโล่ติดมือมาด้วย ทำให้ชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ไม่ได้คิดว่าเหนือคนอื่น แต่คิดว่าเก่ง ทุกๆเรื่องที่เข้ามา เบสิก กรุทำได้ทุกอย่าง
4.
เรื่องไดเอท --- ก็คิดเอาเอง เออเองว่า พยายามลดแป้ง ลดไขมัน ลดทุกอย่าง แต่ความจริงน้ำหนักแมร่งไม่ลดเลย แล้วดันทะลึ่งแดกเหล้าเบียร์อีก
5.
เรื่องคิดว่าตัวเองมีพลังวิเศษ --- คือไม่ใช่อะไรหรอก เป็นไพโบล่า บ้าพลังอ่ะ ถ้าช่วงบ้าก็บ้าจิง ถ้าไม่บ้า ก็นอนได้ทั้งวัน จริงๆๆก็พยายามกินยาช่วยนะ แต่ไม่รู้สิ ยังไม่หาย
6. ไม่รู้ว่า วันนั้นคิดได้เป็น 10 เรื่อง วันนี้จำไม่ได้
แต่ก็หลักๆๆ เท่านี้
จึงเรียนมาเพื่อความลาออกจากความเป็นตัวเอง
ปลดล็อคตัวตน สร้างลุคใหม่ สร้างชีวิตใหม่
ชีวิตเป็นของเรา ไม่ต้องหมอดู ดูดวงให้
ทำวันนี้ให้ดี แล้วทุกๆๆวันจะดีเอง
ก็เริ่มวันที่ 25 (คือ เมื่อวาน)
จบ
ภาพบรรยากาศร้านนั่งกิน เห็นทีไร อยากทุกที อาหารก็อร่อย